ฉันบ้านนอก บอกตรง ๆ อย่าสงสัย
ประชาธิปไตย ใจรัก มักเอ่ยอ้าง
มีมวลชน ผู้กล้า พาร่วมทาง
ให้ช่วยถาง กำจัดเหตุ เผด็จการ
การเมือง เรื่องนั้น ๆ ฉันไม่รู้
เข้ามาดู คอนเสริตแดง กำแหงหาญ
เพื่อนบอกว่า ที่เราเห็น เป็นตำนาน
อุดมการณ์ ล้วน ๆ อย่ารวนเร
มีร้องรำ ทำเพลง บรรเลงรับ
ท่านผู้นำ ขานขับ โอ้ละเห่
จัดประกวด ร้องรำ ทำเมดเล่ย์
รอวัน ดีเดย์ จะดูดี
อุดมการณ์ ใหญ่ยิ่ง ทั้งหญิงชาย
คนมากมาย เหมือนงานวัด จัดเคลื่อนที่
เพื่อนบอก เป็นอุบาย บรรดามี
ยุทธวิธี ผู้นำ ทำให้ดู
ถึงวันนี้ งานสำเร็จ เสร็จผู้นำ
อุบายล้ำ เข้าสภา สง่าหรู
สร้างฐานเสียง ล้ำลึก ตรึกตรองดู
กลับไปอยู่ หลังเขา เรามัน “ควาย”
-ไผ่ พันลำ-
วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
อกหักเพระรักอ้าย
-ไปซ่ะ-
เจ็บจำช้ำทนระคนแค้น
สิ้นสุดแสบแสนแค้นเคือง
รู้เช่นเห็นชาตินิตย์เนือง
สิ้นเปลืองรินรดหยดน้ำตา
เมื่อสิ้นภักดิ์รักกันฉันกับเธอ
จะเสนอหน้าไฉนใยเสน่หา
แม้ตัดใจแสนยากเมื่อจากลา
ดีกว่าทนอยู่รู้แก่ใจ........
แต่นี้ไม่มีก้างมาขวางแน่
มิใช่แพ้แต่เบื่อเหลือทนได้
เจ็บหนักจักทนแม้หม่นไหม้
สักวันทำใจไม่ขอทน.....
-ไผ่
พันลำ-
16 ก.ค.55
คิดฮอด...
เมื่อมาช้าไปไม่ทันรัก
จำหักห้ามใจไม่คิด
หลบหลีกห้ามใจให้สนิท
หมดสิทธิ์ด้วยช้ามาสาย
เธอมีเจ้าของป้องปก
เพียงคิดจิตตกนรกร้าย
ตัดใจป้องกันอันตราย
ใจสลายสิทธิ์หมดรันทดใจ
คิดฮอดถอดใจไม่คิด
เคยสนิทแนบนางอย่างไร
อดกล้ำทนกลืนฝืนใจ
สิ้นไร้ทางพบจบกัน
**ไผ่
พันลำ**
11 ส.ค. 54/11 ก.พ.55
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ลำชีแห่งความหลัง
โขงมีชีมูลคูณค้ำ
สายน้ำสามลำค้ำอีสาน
มูลใต้ชีกลางทางผ่าน
ไหลลงธารโขงตรงปากมูล
มีตำนานขานไขเล่าไว้ว่า
หนุ่มสาวชาวนารักพาสูญ
มารหัวขนคนระยำทำอากูล
ทิ้งลูกลงชีมูลไม่จุนเจือ
หนุ่มได้ สาวเสีย ละเหี่ยนัก
พิษรักแรงใคร่ไม่หลงเหลือ
ทิ้งสาวทุกข์ทนเพราะตนเบื่อ
โศกเหลือเมื่อเด็กน้อยลอยลงชีฯ
-ไผ่
พันลำ-
ไกลบ้าน
ห่างเหินเนิ่นนานบ้านฉัน
ด้นดั้นจากดินถิ่นฐาน
ระเหเร่ร่อนซมซาน
ไกลบ้านนานเนาเหงาจังฯ
เพราะจนค่นแค้นแสนเข็ญ
ลำบากยากเย็นเกินยั้ง
จรจากพรากมาละล้าละลัง
ใจหวังยังชีพเลี้ยงชนม์
ห่างเหินเกินใจห้ามหัก
คนรักราร้างห่างหน
จำใจจำจากหน้ามล
สับสนจนใจได้เจอฯ
-ไผ่ พันลำ-
ถามคนตายหรือยัง…
แมลงเม่าเข้าไฟเพราะไหลหลง
เป็นผุยผงพับไปเพราะไฟเผา
วีรชนมอดม้วยด้วยหูเบา
ต้องถูกเขาเมามอมจึงยอมตาย...
เพราะรู้น้อยคอยแต่ฟังจึงพลั้งพลาด
ฟังพาลเป็นปราชญ์จึงฉิบหาย
ด้วยสัตย์ซื่อถือศรัทธาพาตัวตาย
หลงอุบายคนอุบาทว์ฆาตกร
เขายุแหย่เชิงยั่วตัวไม่รู้
หลงใหลไม่ตรองดูให้สังหรณ์
ถูกมอมจนเมาอนาทร
ต้องม้วยมรณ์หลงกลคนร้อยเล่ห์
อันคารมคมลิ้นคนปลิ้นปล้อน
มันมีเงื่อนซุกซ่อนให้หันเห
กล้าสู้เสี่ยงตายไม่ลังเล
ศพเกลื่อนระเนเพทุบาย
แล้วไง....ใครเล่าเท้าเหยียบศพ
ฯพณฯที่เคารพคือความหมาย
ได้ดีด้วยศพมีมากมาย
คนตายยอมหรือถ้าปรองดอง.....
-ไผ่ พันลำ-
อุ่นไอไม่นานต้องซานซม
สวรรค์ล่มคมฆาตต้องบาศก์บ่วง
ไพร่หมองต้องโทษว่าจาบจ้วง
ทนเก็บเจ็บทรวงในบ่วงบาศฯ
ต้องระเหเร่ร่อน ไปนอนคุก
ต้องระเหเร่ร่อน ไปนอนคุก
เคล้าคลุกแค้นคับกับอมาตย์
คิดเคืองเบื้องบนจนประสาท
ต้องลำค็ญเป็นทาสเบื้องบาทใคร
หรือเพราะเราปากพร่อยถ่อยสถุล
เป็นไพร่ไร้สกุลจึงหมองไหม้
ชาติหน้าถ้าเกิดร่วมแดนไทย
อย่าได้เกิดเป็นไพร่ใกล้เวียงวังฯ
รู้มากปากเน่าหมิ่นเจ้านาย
สุดท้ายได้อยู่ยงในกรงขัง
ถูกมอมเมาก็หลงจนเซซัง
เป็นเหยื่อกระทั่งถูกขังลืม
- ไผ่ พันลำ-
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ดาวลอย
พอเขาลือชื่อเสียงสูงเพียงฟ้า
เจ้าก็เช่นดาราเวหาหาว
เสพสมสังคมเมืองเป็นเรื่องราว
ทิ้งถิ่นกลิ่นคาวชาวไร่นา
หลงเพลิดเสียเพลินจนเลินเล่อ
หลงใหลละเมอประมาณว่า
ประมาทพลาดเพลินเกินศักดิ์กา
มัวเมามายาเพราะบ้ายอ
ร่วงโรยวัยสวยเมื่อสาวสิ้น
เสพเสร็จเขาหมิ่นอนาถหนอ
บ้านเรายังมีที่ไว้รอ
แม่พ่อรอรับขับ “ขวัญดาว”
-ไผ่ พันลำ-
14 ธ.ค. 55
เพลงดาวลอย http://www.youtube.com/watch?v=4k5KtEFt7pk
ขญม
อะหังอัญขญม ระทมทุกข์
เคล้าคลุกควันหลงสงคราม
อำนาจอุบาทว์เสื่อมเลวทราม
คุกคามเข่นฆ่าประชาชี
เพียงจิตคิดข้างต่างลัทธิ
อุดมคติกลายกลับอัปรีย์
ลืมสิ้นเผ่าพ้องน้องพี่
ย่ำยีเผ่าพันธุ์กันเอง
แขมร์ขมาดชาติสิ้น
แผ่นดินระงมข่มเหง
ลุกมาฆ่ากันไม่หวั่นเกรง
เลือดไหลละเลงลงดิน
สักวันเผ่าไทยคงได้เห็น
เฉกเช่นเขมรหมอนหมิ่น
สักวันถึงฆาตชาติสิ้น
คนร่วมแผ่นดินฆ่ากัน....
-ไผ่ พันลำ-
28 มิ.ย. 56
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)